ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 73.2 ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 75.8 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.นี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งชี้ให้เห็นว่า การเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอีกครั้งนั้น ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคครัวเรือนได้ การปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนนั้นทำให้ชาวอเมริกันมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งฟื้นตัวขึ้นแต่ยังฟื้นตัวแบบที่ไม่เท่าเทียมกัน ในขณะเดียวกันราคาหุ้นที่สูงขึ้น และมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นทำให้ภาคครัวเรือนมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังใกล้เข้ามา ดัชนีชี้วัดถึงกิจกรรมการผลิตสินค้าคงทน (Core Durable Goods Orders m/m) ก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน ตัวเลขออกมาที่ -0.1% แต่นักวิเคราะห์คาดเอาไว้ที่ 0.6% การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหมายถึงว่าภาคธุรกิจการผลิตมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และจะส่งผลให้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้ราคาพันธบัตรลดลงและอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นได้ แต่หากมีการลดลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมากกว่าที่คาดการณ์ ผลต่อตลาดพันธบัตรก็จะเกิดในทิศทางตรงกันข้าม ตัวเลขไม่ดีแบบนี้เงิน USD คงอ่อนค่าไปอีกระยะนึง