ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่ายอดส่งออกของจีนขยายตัวได้ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 51.22 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 13,441.73 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.01 จุด หรือ 0.55% แตะที่ 1,469.03 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ 0.70% แตะที่ 3,127.61 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการส่งออกของจีนในปี 2555 เพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดส่งออกในเดือนธ.ค.ขยายตัว 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2.311 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2555 ซึ่งพุ่งขึ้น 48.1% จากปี 2554 อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 371,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 365,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 6,750 ราย สู่ระดับ 365,750 ราย รายงานของกระทรวงระบุว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวของทุกๆปี จำนวนคนว่างงานมีความผันผวนอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด และภาคเอกชนปรับลดการจ้างงานตามฤดูกาล หุ้นนิวส์ คอร์ป ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ outperform หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 เท่า เนื่องจากผลประกอบการปรับตัวสูงขึ้น หุ้นแอปเปิดดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากมีรายงานว่าซีอีโอของแอปเปิลได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้บริหารของบริษัท ไชน่า โมบาย ที่กรุงปักกิ่งในวันนี้