มูดี้ส์ อะนาลิติกส์ ระบุว่ามีความเป็นไปได้ 15% ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff พร้อมกับเตือนว่าสถาบันการเงินต่างๆต้องดำเนินในเชิงรุกเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงในบรรยากาศที่ยังคงมีความไม่แน่นอน Fiscal cliff หมายถึงภาวะที่มาตรการด้านนโยบายหลายประการของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งก็คือในช่วงรอยต่อระหว่างสิ้นปี 2555 และต้นปี 2556 โดยมาตรการที่สำคัญซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันโดยตรงนั่นก็คือมาตรการปรับลดภาษีและการปรับลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล มาตรการปรับลดภาษีที่ว่าก็คือ มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้ขนานใหญ่ที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชได้นำมาใช้ในปี 2544 และ 2546 ที่กำลังจะสิ้นอายุลงในสิ้นปี 2555 ขณะที่กระบวนการปรับลดงบประมาณที่เป็นไปโดยอัตโนมัติจะเริ่มมีผลในวันที่ 2 มกราคม 2556 มูดี้ส์คาดว่า ในกรณีที่เกิด fiscal cliff ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะร่วงลงต่ำกว่าสถานการณ์ที่มีการขยายระยะเวลานโยบายในปัจจุบันออกไปในปี 2556 อยู่ 2.8% ขณะที่จะเกิดภาวะถดถอยครั้งใหม่ และอัตราว่างงานจะพุ่งแตะ 9.2% ภายในสิ้นปี นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมูดี้ส์ อะนาลิติกส์ระบุว่า สถานการณ์ fiscal cliff ในสหรัฐตามการประเมินของมูดี้ส์นั้น อิงกับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุดของทางบริษัท เพื่อที่จะช่วยให้สถาบันการเงินต่างๆสามารถบริหารจัดการพอร์ทโฟลิโอได้ดีขึ้นท่ามกลางภาวะทางเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ มูดี้ส์คาดว่ามีโอกาส 30% ที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังด้วยการขยายมาตรการด้านภาษีและงบประมาณรายจ่ายออกไปในปี 2556 ซึ่งในกรณีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐจะกระเตื้องขึ้นในปีหน้า แต่จะไม่มีความคืบหน้าสู่ความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาว ส่วนสถานการณ์ที่มูดี้ส์ระบุว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด 55% ก็คือการที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายประนีประนอมด้วยการพบกันครึ่งทางระหว่างภาวะหน้าผาทางการคลังและภาวะที่ไม่เกิดหน้าผาทางการคลัง