อาลี อัคบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าววานนี้ (3 ก.พ.) ว่า 6 ประเทศมหาอำนาจมีแผนจะกลับสู่การเจรจารอบใหม่ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่คาซัคสถาน และยืนกรานว่าอิหร่านไม่เคยซื้อเวลาในการเจรจา อิหร่านและ 6 ประเทศมหาอำนาจ อย่างสหรัฐฯ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้เปิดโต๊ะเจรจา 3 รอบในปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อคลายความขัดแย้งกรณีการทดลองนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลอิหร่าน ยืนยันมาตลอดว่าเป็นการทดลองเพื่อสันติ กลุ่ม 6 ประเทศมหาอำนาจเรียกร้องให้อิหร่านทบทวนการทดลองดังกล่าว แต่กลับไม่ยอมรับเงื่อนไขของอิหร่านและประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยการเจรจารอบล่าสุดจบลงอย่างไร้บทสรุปเมื่อเดือนมิถุนายนที่กรุงมอสโก นายซาเลฮี กล่าวว่า นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดถึงอิหร่านในการประชุมประเด็นความมั่นคงนานาชาติที่เมืองมิวนิกเมื่อวันเสาร์ (2 ก.พ.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมที่จะร่วมเจรจากับอิหร่านกรณีการทดลองนิวเคลียร์ “ด้วยความจริงใจ” รัฐบาลสหรัฐฯ เคยตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านนับตั้งแต่เกิดการลุกฮือปฏิวัติในปี 2522 และมีความสัมพันธ์ที่ง่อนแง่นมาโดยตลอด ด้านเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวก่อนจะมีการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมอย่างเป็นทางการว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลอิสราเอลชุดใหม่คือการขัดขวางโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เป็นการปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนานาชาติ หลังจากมีรายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ม.ค.) ว่า อิหร่านมีแผนติดตั้งอุปกรณ์สมัยใหม่ในโรงงานยูเรเนียมในเมืองนาทานซ์ ซึ่งอยู่ทางภาคกลางของอิหร่าน